“วันนอร์” หรือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ย้ำว่า รายชื่อคนนอกที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก่อนเลือกตั้ง ไม่มีสิทธิ์ถูกเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 เพื่อรักษาหลักการที่ให้ประชาชนตัดสินใจล่วงหน้า. เขาระบุว่า แม้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจะทำให้การทำงานในสภายากขึ้น แต่สภายังคงดำเนินหน้าที่ตามปกติ และ จะไม่ก้าวก่ายอำนาจฝ่ายบริหาร , ประเด็น ชายแดนไทย–กัมพูชา จะยังไม่ถูกหารือในสภา เพราะอยู่ในช่วงปิดประชุม ต้องรอเปิดประชุมสมัยสามัญในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568. การ เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และการ เลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ สามารถเกิดขึ้นได้ในสมัยประชุมหน้า โดยรายชื่อผู้ถูกเสนอเป็นนายกฯ ต้องอยู่ในบัญชีเดิมของพรรคที่ส่งให้ กกต. ไว้ก่อนเลือกตั้ง , ส่วนวุฒิสภา (ส.ว.) ไม่มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป เพราะอำนาจตามมาตรา 272 หมดวาระไปแล้ว.

อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า พรรคจะไม่จัดตั้งรัฐบาลแข่ง กับฝ่ายใด หลังจากถอนตัวออกจากรัฐบาลแล้ว ยืนยันบทบาทใหม่ในฐานะ ฝ่ายค้านเต็มตัว โดยจะตรวจสอบรัฐบาลอย่าง สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ของประชาชน , ปฏิเสธแนวทาง “การเมืองแบบตีรวน” พร้อมเดินหน้าทำงานในสภาด้วยความมีวุฒิภาวะ กล่าวถึงกระแสการชุมนุมใหญ่ 28 มิถุนายนว่า ขอให้ประเทศสงบสุข ไม่ว่าฝ่ายใดจะมีอำนาจ ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดว่า พรรคภูมิใจไทยจะปรับบทบาทสู่ฝ่ายค้านอย่างแข็งขัน โดยยังยึดความสงบและประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก

นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ถอดถอน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เหตุผลคือ พฤติกรรมฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะกรณี คลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ซึ่งถูกมองว่าเป็นการลดเกียรติทหารไทยและกระทบต่ออธิปไตยของประเทศ พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา และ สมาชิกวุฒิสภาหลายคน เรียกร้องให้นายกฯ ลาออก ชี้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวแสดงถึงความด้อยความสามารถ และ ไม่รักชาติ คำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า นายกฯ สิ้นสุดสถานะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 หรือไม่ โดยอ้างถึงมาตรฐานจริยธรรมและการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย